กินให้ดีแบบ Happy University
กินให้ดีแบบ Happy University
วันนี้คุณกินอาหารครบ 5 หมู่ในปริมาณที่เพียงพอแล้วหรือยัง เพราะมันจุดเริ่มต้นง่าย ๆ ของความยั่งยืนในการมี Happy Body
ความรู้ไม่สู้ลงมือเปลี่ยน
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการส่งเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับโรงพยาบาลต่าง ๆ
รณรงค์ให้คนมีพฤติกรรมการบริโภคที่ดีต่อสุขภาวะมาอย่างต่อเนื่อง
ขนาดองค์การสหประชาชาติยังประกาศให้ปี 2564
เป็นปีส่งเสริมการกินผักผลไม้สากล (International Year of Fruits and
Vegetables, 2021) ด้วย
ถ้ารู้ว่ากินดีแล้วจะมีสุขภาพที่ดีตามมาก็ต้องลงมือทำสิ
ถึงจะเปลี่ยนได้อย่างยั่งยืน
อย่างที่การวิจัยเรื่อง
“สภาพแวดล้อมทางอาหารภายในมหาวิทยาลัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการบริโภคเพื่อสุขภาพของนักศึกษาไทย”
ที่ทำขึ้นเมื่อปี 2561 โดยสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า
ชี้ว่า ควรใช้แนวทางการส่งเสริมสุขภาพและแนวทางการคุ้มครองสุขภาพไปพร้อมกัน
โดยเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมเพื่อช่วยให้เราหลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ
และสามารถเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพได้ง่ายขึ้น
ใครคือผู้นำเทรนด์กินดีแบบมีสุขภาวะ
กลุ่มวัยรุ่นตอนปลาย (อายุ 18-21
ปี) นี่ล่ะ คือ ฮีโร่
เพราะเป็นช่วงอายุที่เรามักเริ่มทำพฤติกรรมที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น ไม่กินอาหารเช้า
ไปดริ้งค์กับเพื่อน หมูกระทะต้องมา ฟาสต์ฟู้ดต้องไม่พลาด เป็นต้น
และเพราะวัยนี้กำลังก้าวข้ามจากความเป็นเด็กสู่ผู้ใหญ่ มีการพัฒนาทางกาย
สติปัญญา อารมณ์ และสังคมมาก ถ้าปลูกฝังพฤติกรรมที่ถูกต้องในช่วงนี้
โอกาสที่จะมีพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่เหมาะสมตลอดชีวิตจะสูงขึ้น
ช่วยลดความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพและโรคเรื้อรังได้
พฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ถูกต้องเป็นเรื่องที่ต้องปลูกฝังและย้ำเตือนกันเรื่อย
ๆ Happy Body จึงเป็นหนึ่งในความสุขพื้นฐานที่โครงการ
Happy University ให้ความสำคัญ จากการดำเนินการของ Happy University อย่างต่อเนื่อง
เราเริ่มเห็นว่ามหาวิทยาลัยหลายแห่งมีโครงการที่น่าสนใจที่จะช่วยกระตุกให้บุคลากร
นิสิตนักศึกษา คิดก่อนสั่ง คิดก่อนกินอาหารกันแล้ว
ส่องโครงการกินดีในรั้วมหาวิทยาลัย
Happy University ขอพาขึ้นเหนือกันก่อน
ไปดูโครงการน่าสนใจของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่หนึ่งในภาคีของ Happy University
ที่ได้จัดทำโครงการอาหารสุขภาพและโภชนาการสมดุลในยุคดิจิทัลของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ที่อาศัยศักยภาพของมหาวิทยาลัยในด้านเทคโนโลยีดิจิทัลพัฒนาแอปพลิเคชั่น “กินในมอ” (Kin Nai Mor) ขึ้น
“กินในมอ”
เก็บข้อมูลจากร้านอาหารในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ว่าแต่ละเมนูให้พลังงานและสารอาหารอะไร
เก็บข้อมูลน้ำหนักและส่วนสูงของผู้ใช้เพื่อคำนวณปริมาณพลังงานและสารอาหารที่ควรได้รับ
พร้อมทั้งแนะนำว่าควรกินอะไร เมื่อไหร่ที่ได้รับน้ำตาล
พลังงาน ไขมัน และโซเดียมมากเกินไป แอปนี้จะช่วยเตือนทันที
กระตุกให้คนที่ใช้แอปนี้ระมัดระวังมากขึ้น ไม่ตามใจปาก
และปรับพฤติกรรมการบริโภคของตนเอง ในอนาคต
แอปนี้จะช่วยวางแผนการบริโภคให้บุคลากรและนักศึกษา
เพื่อลดความเสี่ยงจากโรคที่เกิดจากการบริโภคเกินพอดี
ขณะเดียวกันก็จะช่วยให้ร้านอาหารได้ปรับปรุงรายการอาหารที่มีประโยชน์และดีต่อสุขภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ มีการจัดกิจกรรมอื่น ๆ เช่น
Health Talk
เชิญผู้รู้มาพูดคุยสารพันเรื่องสุขภาพเพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดี
มีโครงการ University Zero% alcohol รณรงค์ให้ลดละเลิกเหล้า CMU3F – Food, Fit, Fresh จัดการบรรยายให้ความรู้เรื่องอาหาร ลดน้ำหนัก
และแนะแนวการสร้างพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ดี สร้างสิ่งแวดล้อมที่จะนำไปสู่การมี Happy
Body ต่อไป
ส่วนมหาวิทยาลัยภาคีอื่นหลายแห่งก็ให้ความสำคัญเรื่องการส่งเสริมพฤติกรรมการบริโภคที่ดีเช่นกัน มีการดำเนินการทั้งในระดับนโยบาย
และระดับปฏิบัติการ หลายมหาวิทยาลัยมีแผนปรับปรุงโรงอาหารให้สะอาด ถูกสุขลักษณะ
มีการพูดคุยกับร้านอาหารในสถาบันเพื่อส่งเสริมให้มีการจัดเมนูอาหารที่มีประโยชน์
เพื่อสร้างสุขภาวะ บางมหาวิทยาลัยแม้จะยังไม่ได้มีนโยบายออกมาอย่างชัดเจน
แต่ผู้บริหารก็เห็นด้วยกับการส่งเสริมพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ถูกสุขภาวะ ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี
Happy University หวังว่า
เราจะได้เห็นโครงการดี ๆ ตามมาในอนาคต
เพราะเราอยากเห็นชาวมหาวิทยาลัยมีความสุขในทุกมิติ
และร่วมกันกระจายพลังแห่งความสุขออกไปเพื่อร่วมกันสร้างสังคมที่แข็งแรง
***************************************
อ้างอิง
- ปนันดา จันสุกรี และวศิน แก้วชาญค้า. (2561). สภาพแวดล้อมทางอาหารภายในมหาวิทยาลัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการบริโภคเพื่อสุขภาพของนักศึกษาไทย. (รายงานการวิจัย). กรุงเทพมหานคร: สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
- มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. CMU Happy and Healthy University. เข้าถึงได้จาก https://hr.oop.cmu.ac.th/submenu/docSubMenu/happyU/policy.pdf
- Nopparat Narisaranon. (2564). จุดประกายพลเมืองอาหาร.
เข้าถึงได้จาก https://www.thaihealth.or.th/Content/55423-จุดประกายพลังพลเมืองอาหาร.html