ความสุขคุณแม่วัยทำงานในมหาวิทยาลัย
สถานการณ์ในปัจจุบันเราพบเจอคุณแม่ในวัยทำงานที่ต้องเลี้ยงดูลูกพร้อมกับทำงานไปด้วย
หลายคนคิดว่าการเป็นแม่คงหาความสุขให้กับตัวเองได้ยาก เพราะกว่าจะเลี้ยงคน ๆ
หนึ่งให้เติบโตมาอย่างมีคุณภาพได้ต้องผ่านความเครียด ความกดดัน หรือปัจจัยอื่น ๆ
อีกมากมาย
จากผลสำรวจสุขภาวะและความเป็นอยู่ที่ดีของบุคลากร
มหาวิทยาลัยทั่วประเทศไทย ปี 2565 โดยโครงการศูนย์วิชาการมหาวิทยาลัยแห่งความสุขกับการสร้างเสริมสุขภาพอย่างยั่งยืน
สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล
พบว่า มีบุคลากรเป็นคุณแม่มีบุตร จำนวน 6,056 คน (ร้อยละ 30.38) จากจำนวนผู้ตอบแบบสำรวจ
ฯ ทั้งหมด 19,936 คน และยังพบว่าคุณแม่วัยทำงานในมหาวิทยาลัย
มีความสุขภาพรวมอยู่ที่ร้อยละ 66.34 [1] นับว่าเกินครึ่งที่คุณแม่สามารถจัดการบริหารความสุขให้กับตัวเองได้
และเป็นสิ่งที่ท้าทายมาก ที่คน ๆ หนึ่งจะสามารถทำหน้าที่ได้หลาย ๆ อย่างไปพร้อม ๆ
กัน โดยไม่ละทิ้งความสุขของตัวเอง
ข้อมูลข้างต้นแสดงให้เห็นว่า
บุคลากรในมหาวิทยาลัยที่เป็นคุณแม่มีบุตรค่อนข้างมีความสุข แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะต้องทำงานไปด้วยและเลี้ยงลูกไปด้วยให้มีความสุข
ดังนั้น ควรให้ความสำคัญและดูแลคุณแม่ให้ดีในทุกช่วงเวลา
ยิ่งช่วงนี้เป็นเทศกาลวันแม่ อย่าลืม หาเวลาว่างไปทานข้าว ทำกิจกรรมครอบครัว
และมอบความสุขให้คุณแม่
เพื่อให้ท่านได้มีความสุขตลอดทุกช่วงชีวิตที่อยู่กับครอบครัวและลูก ๆ
เคล็ดลับการวางแผนการเงินด้วยรอยยิ้ม
ลำพังการใช้ชีวิตคนเดียวในยุคปัจจุบันก็มีค่าใช้จ่ายมากพออยู่แล้ว แต่ขึ้นชื่อว่าแม่ ต้องมีหน้าที่ดูแลลูก ๆ ในทุกเรื่อง จึงควรมีการวางแผนด้านการเงินที่ดีเพื่อตัวคุณแม่และลูก ๆ ในอนาคต จากผลสำรวจ ฯ พบว่า ค่าความสุขมิติการเงินดี (Happy Money) อยู่ที่ ร้อยละ 54.02 [1] เกินครึ่งของคุณแม่ที่เป็นบุคลากรทำงานในมหาวิทยาลัยยังคงมีความสุขกับการเงิน อาจเป็นเพราะว่ามีการวางแผนบริหารจัดการด้านการเงินที่ดีก็เป็นได้ แต่หากแม่ ๆ คนไหนยังไม่ได้วางแผนการเงินให้ดี เริ่มวันนี้ยังไม่สาย เรามีแนวทางที่พอจะช่วยคุณแม่บริหารการเงินได้ดีขึ้น ดังนี้
1. วางแผนงบประมาณ
สร้างงบประมาณรายเดือนที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทุก และบันทึกรายรับและรายจ่ายทั้งหมดเพื่อให้เห็นภาพรวมของการเงิน
2. ประหยัดค่าใช้จ่าย
หาวิธีการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เช่น การซื้อสินค้าตามโปรโมชั่น การใช้คูปอง
หรือการช้อปปิ้งในช่วงลดราคา
3. สำรองเงินฉุกเฉิน
สร้างกองทุนฉุกเฉินที่มีเงินเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น
การเจ็บป่วยหรือการซ่อมแซมบ้าน
4. การออมเงิน
ตั้งเป้าหมายการออมและสร้างแผนการออมที่ชัดเจน เช่น
การออมเพื่อการศึกษาของลูกหรือการออมเพื่อการเกษียณ
5. การจัดการหนี้สิน
หลีกเลี่ยงการก่อหนี้ใหม่หากไม่จำเป็น และพยายามชำระหนี้ที่มีอยู่ให้หมดเร็วที่สุด
6. ประกันภัย
พิจารณาการซื้อประกันสุขภาพและประกันชีวิตเพื่อปกป้องครอบครัวจากความเสี่ยงที่ไม่คาดคิด
7. การศึกษาและการวางแผนการเงิน
เรียนรู้เกี่ยวกับการบริหารเงินและการลงทุนผ่านหนังสือ บทความ หรือคอร์สออนไลน์
การวางแผนบริหารเงินอย่างมีประสิทธิภาพสามารถช่วยให้ครอบครัวมีความมั่นคงทางการเงินและลดความเครียดในชีวิตประจำวันได้
แม่ ๆ ลองนำแนวทางเหล่านี้ไปทำตามกันดูนะคะ
คุณแม่ยุคใหม่ ยังไม่เครียด
แม้จะยุ่งแค่ไหน คุณแม่ต้องอย่าลืมแบ่งเวลาให้ตัวเอง
อาจจะเป็นเวลาสั้น ๆ แค่จิบกาแฟ อ่านหนังสือ เล่นโยคะ หรือดูซีรีส์สักตอน เติมพลังให้ตัวเอง เพื่อกลับมาเป็นแม่ที่สดใสได้อีกครั้ง
จากผลสำรวจ ฯ พบว่า ค่าความสุขสมดุลชีวิตและการทำงาน (Work life Balance) อยู่ที่ ร้อยละ 53.96
[1] ถือเป็นสัญญาณที่ดีว่าคุณแม่สามารถรักษาสมดุลชีวิตตัวเองได้
รู้จักการปล่อยวาง และสามารถจัดการชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวได้ แต่หากแม่ ๆ
คนไหนยังคงไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ เรามีแนวทางที่จะช่วยให้คุณสามารถจัดการได้ดีขึ้น
ดังนี้
1. จัดลำดับความสำคัญ
จัดลำดับสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต และพยายามแยกแยะระหว่างสิ่งที่ต้องทำและสิ่งที่สามารถเลื่อนได้
2. การวางแผนและจัดการเวลา
ใช้ปฏิทินหรือแอปพลิเคชันเพื่อจัดการตารางเวลา วางแผนล่วงหน้าและเตรียมตัวล่วงหน้าเท่าที่จะทำได้
3. ขอความช่วยเหลือและแบ่งปันงาน
แบ่งงานบ้านกับคู่สมรสหรือสมาชิกในครอบครัว
4. ตั้งขอบเขตเวลาทำงานและเวลาครอบครัว เมื่อคุณทำงาน ให้มีสมาธิที่งาน และเมื่ออยู่กับครอบครัว
ให้มีสมาธิที่ครอบครัวพยายามหลีกเลี่ยงการทำงานนอกเวลาที่กำหนด
5. การดูแลตัวเอง
การพักผ่อนและการดูแลสุขภาพสำคัญมาก นอนหลับเพียงพอ ออกกำลังกาย
และทานอาหารที่ดีหาเวลาทำกิจกรรมที่คุณชื่นชอบและผ่อนคลาย
6. รับมือกับความรู้สึกผิด
ยอมรับว่าคุณไม่สามารถทำทุกอย่างได้อย่างสมบูรณ์แบบ
และอย่ากดดันตัวเองเกินไป ให้กำลังใจตัวเองและจำไว้ว่าคุณกำลังทำดีที่สุด
ชีวิตที่สมดุล
ไม่ใช่แค่จริงจังกับงานที่ทำ แต่ต้องสนุกกับลูกและสิ่งรอบตัว มีความสุขไปด้วยกัน เพียงแค่ปรับมุมมอง
เพิ่มเสียงหัวเราะ เติมพลังให้ตัวเอง เท่านี้ แม่ ๆ ก็สร้างสมดุลในชีวิตได้แบบสบาย
ๆ
.
.
อ้างอิง
[1] ข้อมูลการสำรวจมหาวิทยาลัยแห่งความสุข
ระยะที่ 3 เดือนกันยายน 2563 ถึง สิงหาคม 2565 โดยศูนย์วิชาการมหาวิทยาลัยแห่งความสุขกับการสร้างเสริมสุขภาพอย่างยั่งยืน
สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล.