เวทีวิพากษ์ ข้อเสนอ "มหาวิทยาลัยแห่งความสุข สู่องค์กรสุขภาวะอย่างยั่งยืน"
❗❗อึ้ง! บุคลากรในมหา’ลัยไทย มีปัญหาสุขภาพใจ 57.4% สสส. สานพลัง ภาคี หนุน อว. ดันนโยบาย
“มหาวิทยาลัยแห่งความสุข” ยกระดับสถานศึกษาต้นแบบสู่องค์กรสุขภาวะยั่งยืน 13 แห่ง เล็งขยายผล
84 แห่ง สร้างสุขภาวะบุคลากร-นักศึกษา 1.9 ล้านคนทั่วประเทศ ภายในปี 70
📍เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2567 ที่โรงแรมสุโกศล พญาไท กรุงเทพฯ นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ ปลัดกระทรวง
การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวในเวทีวิพากษ์ข้อเสนอ “มหาวิทยาลัยแห่ง
ความสุขสู่องค์กรสุขภาวะอย่างยั่งยืน” ว่า อว. มุ่งปรับบทบาทของมหาวิทยาลัย ให้เป็นฟันเฟืองสําคัญ
สําหรับการสร้างคน องค์ความรู้ และนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ชาติซึ่งบุคลากรในมหาวิทยาลัย
จําเป็นต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความสุขเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ อว. จึงร่วมกับ
สํานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล
พัฒนาโครงการศูนย์วิชาการมหาวิทยาลัยแห่งความสุขกับการสร้างเสริมสุขภาพอย่างยั่งยืน เพื่อส่งเสริมให้
บุคลากร นิสิต นักศึกษา มีสุขภาวะและความเป็นอยู่ที่ดีในทุกด้าน เกิดการเฝ้าระวังพฤติกรรมสุขภาพ และ
ผลักดันการมีส่วนร่วมพัฒนานวัตกรรมสร้างสุขภาวะในองค์กรอย่างเป็นระบบ
📍“ขณะนี้ มีมหาวิทยาลัยเข้าร่วมโครงการ 60 แห่ง ในจํานวนนี้ยกระดับเป็นองค์กรสุขภาวะต้นแบบ
สร้างเสริมสุขภาวะและความเป็นอยู่ที่ดีครบถ้วนตามแนวทางองค์กรสุขภาวะ 13 แห่ง เกิดฐานข้อมูล
มหาวิทยาลัยแห่งความสุขไทยที่ต่อยอดสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมสู่การพัฒนาเชิงพื้นที่ พร้อมลดความ
เหลื่อมล้ําในสังคม ทั้งนี้ อว. เตรียมดําเนินการนําแนวทางมหาวิทยาลัยแห่งความสุขสู่องค์กรสุขภาวะอย่าง
ยั่งยืน เข้าเสนอต่อคณะกรรมการปฏิรูปการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อววน.) นําไปสู่การ
กําหนดเป็นนโยบายและยุทธศาสตร์อววน. พ.ศ. 2563–2570 ให้ทุกมหาวิทยาลัยดําเนินการสร้างกําลังคนที่มี
คุณภาพและพัฒนาสถาบันความรู้ให้เป็นองค์กรสุขภาวะต่อไป” นายเพิ่มสุข กล่าว
📍นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า สสส. มุ่งดําเนินงานขับเคลื่อนให้เกิด
องค์กรสุขภาวะ (Happy workplace) โดยเฉพาะในมหาวิทยาลัยที่มีบทบาทสร้างคนเพื่อการขับเคลื่อนพัฒนา
ประเทศ ตามเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ของ สสส. พร้อมขับเคลื่อนการส่งเสริมสุขภาวะให้ครอบคลุม 4 มิติ คือ
กาย ใจ ปัญญา สังคม จากผลสํารวจการเฝ้าระวังสุขภาวะและความเป็นอยู่ที่ดีของเครือข่ายมหาวิทยาลัยแห่ง
ความสุข ปี 2566 โดยสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ในกลุ่มนิสิต นักศึกษา 16,585 คน
และบุคลากรมหาวิทยาลัย 10,864 คน พบว่า คุณภาพชีวิต ความสุข ความผูกพันกับสถานศึกษา และความ
สมดุลในชีวิต มีผลประเมินอยู่ในระดับดี อยู่ที่ 64.8% ขณะที่ผลสํารวจกลุ่มบุคลากรมหาวิทยาลัย พบว่า มิติ
ด้านสุขภาพจิตวิญญาณ มีประเมินอยู่ในระดับดีมาก อยู่ที่ 74% แต่มิติสุขภาพใจกลับได้ผลประเมินอยู่ในระดับ
ปานกลาง อยู่ที่ 57.4%
📍“สสส. สนับสนุนให้กระทรวง อว. นําแนวทางมหาวิทยาลัยแห่งความสุขสู่องค์กรสุขภาวะอย่างยั่งยืน
กําหนดเป็นนโยบายด้าน อววน. ผ่านแนวทางการดําเนินงาน 3 ด้าน คือ 1.ขยายบทบาทการพัฒนา “สร้าง
เสริมมหาวิทยาลัยแห่งความสุข” 2.พัฒนาทักษะคนในมหาวิทยาลัยให้เป็น “คนเก่ง งานดี มีความสุข ผลิต
ภาพสูง” 3.สร้างองค์ความรู้และนวัตกรรม “มหาวิทยาลัยแห่งความสุขสู่องค์กรสุขภาวะอย่างยั่งยืน” มุ่งเป้า
ขยายผลมหาลัยแห่งความสุขจากเดิม 60 แห่ง เพิ่มเป็น 84 แห่ง ในปี 2570 สร้างสุขภาวะที่ดีให้กับบุคลากร
และนักศึกษาเพิ่ม 1.9 ล้านคน” นพ.พงศ์เทพ กล่าว
📍ศ.นพ.วชิร คชการ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า สถาบันวิจัยประชากรและสังคม
ร่วมกับ สสส. ดําเนินโครงการ เพื่อพัฒนาให้มหาวิทยาลัย เป็น “มหาวิทยาลัยแห่งความสุข” เป็นต้นแบบใน
การพัฒนาคนและองค์กร มุ่งประโยชน์เพื่อชุมชนและสังคมส่วนรวมมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี2556 โดยมีภาคี
เครือข่ายร่วมกันพัฒนาสร้างเสริมคุณภาพชีวิต พฤติกรรมสุขภาพ สมดุลระหว่างชีวิตกับการทํางาน ทักษะทาง
สังคม และกรอบความคิด รวมถึงความพึงพอใจและความผูกพันองค์กร เพื่อให้บุคลากร นิสิต นักศึกษาของ
มหาวิทยาลัยมีความอยู่ดีกินดี มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีสิ่งแวดล้อมที่ดี มีการใช้ศักยภาพคนอย่างเต็มที่ ตลอดจน
สนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs)
📍ติดตามรายละเอียดของโครงการได้ที่ :
https://www.facebook.com/happyuniversity